The WWF is run at a local level by the following offices...
- WWF Global
- Adria
- Argentina
- Armenia
- AsiaPacific
- Australia
- Austria
- Azerbaijan
- Belgium
- Bhutan
- Bolivia
- Borneo
- Brazil
- Bulgaria
- Cambodia
- Cameroon
- Canada
- Caucasus
- Central African Republic
- Central America
- Chile
- China
- Colombia
- Croatia
- Democratic Republic of the Congo
- Denmark
- Ecuador
- European Policy Office
- Finland
© WWF-Thailand
จุดมุ่งหมายของโครงการ
เพื่อการพัฒนาศักยภาพชุมชนและความมั่นคงของระบบนิเวศโดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งของการจัดการทรัพยากรน้ำแบบมีส่วนร่วมในระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อการรับมือและปรับตัวจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำสงคราม เพื่อนำไปสู่นโยบายวางแผนการสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบภูมินิเวศลุ่มน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ ทั้งในระดับภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และในระดับท้องถิ่น ที่สอดคล้องกับการเกื้อหนุนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของชุมชนท้องถิ่น ที่จะช่วยลดความเสี่ยง และความเปราะบาง และป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศวัตถุประสงค์โครงการ
- เสริมสร้างพัฒนาองค์ความรู้ชุมชนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการ
บูรณาการแผนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์หลักในการปรับตัวเพื่อป้องกันและบรรเทาผล
กระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ ทั้งในระดับหมู่บ้าน อำเภอ และจังหวัด โดยพัฒนาและบูรณาการเข้าไปในแผนพัฒนาจังหวัดขอนแก่น - สาธิตการดำเนินกิจกรรมโครงการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศที่ได้รับความเห็นชอบและคำแนะนำจากข้อมูลคณะทำงานในระดับท้องถิ่น ที่เสนอต่อคณะกรรมการในระดับหมู่บ้าน อำเภอ และจังหวัด (เปรียบเทียบข้อมูลจากแผนการปรับตัวของลุ่มน้ำสงคราม) - เผยแพร่ ข้อมูล บทเรียน องค์ความรู้จากผลลัพธ์ของโครงการเข้าไปในแผนนโยบายยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการปรับตัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เชื่อมโยงสู่การเวทีการประชุมในระดับนโยบายของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- บทเรียน ประสบการณ์ ข้อมูลผลลัพธ์จากกิจกรรมการดำเนินงานของโครงการจะบูรณาการเข้าไปสู่ในนโยบายแผนยุทธศาสตร์การปรับตัวเพื่อรับมือกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งในระดับอำเภอ และในระดับจังหวัด
- ชุมชนท้องถิ่นมีกิจกรรมต้นแบบที่เป็นรูปธรรมของกิจกรรมการปรับตัว ที่เป็นผลมาจากการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศพื้นที่ลุ่มน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ ที่สามารถรับมือกับสภาพการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้
- หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้รับการอบรมในเครื่องมือ และกระบวนการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่สามารถนำไปประยุกต์ออกแบบวางแผนการบูรณาการกิจกรรมภายใต้ความรับผิดชอบตนเองได้
- เกิดเครือข่ายความร่วมมือของคณะทำงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศทั้งที่เป็นคณะกรรมการในระดับจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดนครพนม และรวมถึงเครือข่ายความร่วมมือในระดับภูมิภาคลุ่มน้ำโขงต่อไป
พื้นที่เป้าหมาย
ดำเนินงานในหมู่บ้านเป้าหมายใน 13 หมู่บ้าน ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล อำเภอบ้านไผ่ และอำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น© Naksit Sangjun/WWF-Thailand
© Naksit Sangjun/WWF-Thailand
© Naksit Sangjun/WWF-Thailand
© Naksit Sangjun/WWF-Thailand
© Naksit Sangjun/WWF-Thailand
- ส่งเสริมกิจกรรมการจัดการป่าชุมชนในชุมชนเป้าหมาย จำนวน 5 แห่ง คือ ป่าชุมชนโนนพันชาติบ้านโคกสำราญ, ป่าชุมชนโนนพะยอมบ้านดอนปอแดง, ป่าชุมชนโคกป่าโจด บ้านเมืองเพีย, ป่าชุมชนป่าช้าบ้านเป้า, ป่าชุมชนป่าช้าบ้านดอนปอแดง-หนองหัวช้าง, ป่าชุมชนภูรวก ตำบลหนองแปน, ป่าชุมชนโคกป่าแดงบ้านขามเรียน พื้นที่รวม 2,052 ไร่
- จัดทำเรือนเพาะชำชุมชนจำนวน 3 แห่ง คือ เรือนเพาะชำบ้านโคกสำราญ, เรือนเพาะชำบ้านดอนปอแดงและเรือนเพาะชำบ้านเมืองเพีย อัตราการผลิตจำนวน 20,000 ต้น
- จัดเวทีประชุมร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแปนเพื่อการบูรณาการแผนการจัดการทรัพยากรป่าชุมชนภูรวกแบบมีส่วนร่วม
- จัดอบรมเทคนิคการเพาะชำกล้าไม้ให้กับชุมชนจำนวน 4 หมู่บ้าน
- ปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับชุมชนในพื้นที่จำนวน 7หมู่บ้าน จำนวน 9,992 ต้น ชนิดกล้าไม้ที่ปลูก 22 ชนิด
- ส่งเสริมกิจกรรมการจัดการเขตอนุรักษ์พันธุ์ปลาและพันธุ์สัตว์น้ำจำนวน 4 หมู่บ้าน
- ปล่อยพันธุ์ปลาในพื้นที่เขตอนุรักษ์ รวม 700,000 ตัว
- ปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกราม 1 ครั้ง จำนวน 100,000 ตัว
- จัดชุดเพาะพันธุ์ปลาเคลื่อนที่เพาะและปล่อยลงสู่พื้นที่รวมจำนวน 400,000 ตัว
- ประเมินความหนาแน่นและโครงสร้างของประชากรปลาในพื้นที่เขตอนุรักษ์และนอกเขตอนุรักษ์เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างและความเปลี่ยนแปลงโดยนำร่องที่บ้านโคกสำราญ
- ขยายพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมายเพื่อส่งเสริมกิจกรรมการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำแก่งละว้า จำนวน 8 หมู่บ้าน
- จัดเวทีประชุมร่วมกับองค์กรปกครองส่วนปกครองส่วนท้องถิ่นรอบพื้นที่ชุ่มน้ำแก่งละว้าเพื่อการบูรณาการแผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน
- จัดกิจกรรมการรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกและสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำแบบบูรณาการ
- จัดกิจกรรมศึกษาดูงานการจัดการทรัพยากรพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อเสริมสร้างศักยภาพองค์กรชุมชน และหน่วยงานภาครัฐต่อการจัดการทรัพยากรพื้นที่ชุ่มน้ำอย่างมีส่วนร่วม
- สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการปลูกผักแบบปลอดภัยแปลงงของบ้านโคกสำราญและบ้านชีกกค้อ
- ฝึกอบรมเทคนิคการปลูกผักปลอดภัยที่บ้านชีกกค้อและบ้านดอนปอแดง
- ศึกษาดูงานกิจกรรมการปลูกผักปลอดสารพิษ/ปลอดภัยที่บ้านหม้อ ตำบลคูคำ อำเภอซำสูง จังหวัดขอนแก่น 2 ครั้ง และหนองทุ่ม ตำบลหนองทุ่ม อำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น
- ส่งเสริมการสร้างเกษตรกรเพื่อเป็นต้นแบบของในการปรับตัวของชุมชนบ้านโคกสำราญ โดยสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมวนเกษตรผสมผสานในพื้นที่ส่วนบุคคลเพื่อเพิ่มรายได้และความหลากหลายในพื้นที่
- ส่งเสริมการบริหารจัดการกลุ่มผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ดบ้านโคกสำราญ
- จัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกและสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำแบบบูรณาการ คืองานวันสิ่งแวดล้อมโลก 2556
- จัดประชุมเพื่อปรึกษาหารือและการประชาคมกิจกรรมขยายพื้นที่โครงการในหมู่บ้านเป้าหมายเพื่อส่งเสริมกิจกรรมการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำแก่งละว้า จำนวน 9 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านละว้า บ้านโนนละม่อม บ้านกุดเป่ง บ้านธาตุ บ้านหนองหัวช้าง บ้านขามเรียน บ้านหนองนาวัว บ้านหนองร้านหญ้า และบ้านหนองนางขวัญ
- จัดกิจกรรมศึกษาดูงานการจัดการทรัพยากรพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรหน่วยงานภาครัฐต่อการจัดการทรัพยากรพื้นที่ชุ่มน้ำอย่างมีส่วนร่วม ณ Ramsar site พื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติทรัมชิม
ประเทศเวียตนาม
ทำไมต้องพื้นที่ชุ่มน้ำ?
- พื้นที่ชุ่มน้ำเป็นระบบนิเวศที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งด้านเศรษฐกิจ,สังคมและสิ่งแวดล้อม
- ปัจจุบันพื้นที่เหล่านี้ถูกคุกคามจากการบุกรุกและการพัฒนาในรูปแบบต่างๆ
- พื้นที่ชุ่มน้ำมีบทบาทสำคัญต่อความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ
- พื้นที่ชุ่มน้ำอุ้มชูประชากรสัตว์ป่าที่หลากหลายทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ
- พื้นที่ชุ่มน้ำเป็นได้ทั้งแหล่งน้ำ, แหล่งสำรองน้ำ, เป็นขอบเขตกั้นการไหลเข้าของน้ำเค็ม, ป้องกันการกัดเซาะของชายฝั่งและช่วยในการป้องกันการตกตะกอนรวมถึงกรองแร่ธาตุและสารพิษอื่นๆ
© WWF Thailand
...
การอนุรักษ์หมายถึงการใช้งานทรัพยากรบนโลกที่มีอยู่อย่างชาญฉลาดเพื่อสิ่งที่ดีและยั่งยืนของมนุษย์
Gifford Pinchot